เอกภพ สิทธิวรรณธนะ

English version Circles of Care exhibition

#0 Circles of care This is infographic of circles of care show the ecology of caring componant. The center of circles is patient Inner network represents close relation that take care sanitery, eatary or serious health issues Outer network represents friend, distant relative that could take care of daily and general well being Communities represents …

English version Circles of Care exhibition Read More »

The Soul of Care: Book Review

The Soul of Care: The Moral Education of a Doctor Arthur Kleinman จัดพิมพ์ในชื่อภาษาไทยว่า วิญญาณของการดูแล การบ่มเพาะทางศีลธรรมของแพทย์คนหนึ่ง อาร์เธอร์ ไคลน์แมน หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องราวอัตชีวประวัติของอาร์เธอร์ ไคลน์แมน จิตแพทย์และนักมานุษยวิทยาการแพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้เขียนเล่าชีวประวัติควบคู่ไปกับประวัติการดูแลโจน ไคลน์แมน ภรรยาของผู้เขียนที่ประสบความทุกข์ทรมานจากภาวะสมองเสื่อมในวัย 50 ปี เส้นทางการดูแลเต็มไปด้วยความยากลำบาก หากก็มีส่วนเปลี่ยนแปลงความเป็นมนุษย์ของผู้เขียนอย่างลึกซึ้ง ในระหว่างการดูแล ผู้เขียนบอกเล่าเรื่องราวการดูแลภรรยาจากหลากหลายกลุ่ม ทั้งตัวผู้เขียน ครอบครัว ชุมชน บุคลากรสุขภาพทั่วไปและเชี่ยวชาญ ผู้เขียนเล่าด้วยมุมมองที่หลากหลาย ทั้งจากสายตาของสามีคนหนึ่ง พ่อคนหนึ่ง และนักวิชาการแนวหน้าด้านมานุษยวิทยาการแพทย์ ไม่แปลกที่หนังสือเล่มนี้เสนอข้อวิพากษ์พฤติกรรมการดูแลของแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ ที่ถูกครอบงำโดยชุดคุณค่าแบบทุนนิยมและการบริหารจัดการ แทนที่การดูแลด้วยมือ หัวใจ และการอยู่ตรงหน้ากับผู้ป่วย เรื่องเล่าและบทวิเคราะห์การดูแลของผู้เขียนและภรรยาในหนังสือเล่มนี้ สะท้อนให้เห็นข้อจำกัดของระบบบริการสุขภาพในสหรัฐอเมริกา การละเลยไม่ใส่ใจบำรุงระบบการดูแลผู้ป่วยระยะยาว ความบิดเบี้ยวของระบบการศึกษาแพทย์ และบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพที่ค่อยๆ กัดกร่อนความสามารถและทักษะการดูแลของบุคลากรสุขภาพวิชาชีพ จนผู้ป่วยและครอบครัวรู้สึกว่าสถาบันสุขภาพเหล่านี้ไม่ได้ให้การดูแลในเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างที่สุด ขณะเดียวกัน The Soul of …

The Soul of Care: Book Review Read More »

เจรจาสร้างความร่วมมือการพัฒนาชุมชนกรุณาด้วยหลักการ K.I.S.S. (Keep It Short and Simple)

การพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการอยู่และตายดีตามแนวคิดชุมชนกรุณา ไม่สามารถทำโดยลำพัง ทักษะการสร้างความร่วมมือกับผู้นำจากพันธมิตรจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อระดมคน กำลัง และทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในชุมชน มาเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่เอื้อต่อการตายดีมากขึ้น บทความนี้นำเสนอเทคนิคการสนทนาเพื่อเสนอความร่วมมือกับคนที่เราอยากร่วมงานด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่หวังผลการเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการพูดที่สั้น กระชับ เรียบง่าย (Keep It Short and Simple หรือ K.I.S.S.) แต่ได้ผล สรุปเนื้อหาจากงานอบรมหลักสูตรการออกแบบกระบวนการเรียนรู้สำหรับกระบวนกรชุมชนกรุณา ที่บ้านไม้หอม พระราม 2 วันที่ 19 – 21 มิถุนายน 2565 สอนโดย ครูอ้อ หทัยรัตน์ สุดา ทำไมต้อง K.I.S.S. ปัญหาหนึ่งของการเจรจาสร้างความร่วมมือที่พบบ่อยๆ ของผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง คือ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงมักสื่อสารเนื้อหาการทำงานที่มากและนานเกินไปในการเสนองาน ไม่น่าสนใจ จนผู้ที่เราอยากจะขอความร่วมมือจับใจความสำคัญไม่ได้ เป็นนามธรรม สิ่งที่เสนออาจจะยากเกินไปในการร่วมงานด้วย ทำให้พลาดโอกาสที่จะสร้างความร่วมมือ สร้างความรู้จักคุ้นเคย พัฒนาความไว้เนื้อเชื่อใจจนเกิดเป็นความร่วมมือระยะยาว การพัฒนาบทเจรจาสร้างความร่วมมือ การขัดเกลาเนื้อหาการเจรจาและประเด็นขอความร่วมมือให้สั้น กระชับ จำได้ เป็นไปได้ และง่ายที่จะร่วมมือด้วย จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเปิดประตูโอกาสในการร่วมมือ …

เจรจาสร้างความร่วมมือการพัฒนาชุมชนกรุณาด้วยหลักการ K.I.S.S. (Keep It Short and Simple) Read More »

แนวทางการออกแบบกระบวนการเรียนรู้เรื่องการอยู่และตายดีแบบ Active Learning

เขียนโดย เอกภพ สิทธิวรรณธนะ2022-7-14 การเรียนรู้ความตาย หรือ Death Education เป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริมป้องกันสุขภาพ (Health Promotion and Prevention Approach) ที่ช่วยสนับสนุนคุณภาพชีวิตช่วงท้ายและการตายดีที่ให้ผลที่คุ้มค่า ประชาชนที่มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ย่อมมีแนวทางในการดูแลตัวเอง สามารถเลือกและตัดสินใจการดูแลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัว มีโอกาสจะเข้าถึงการตายดีได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม การจัดกระบวนการเรียนรู้สนับสนุนการอยู่และตายดี ก็เป็นเรื่องท้าทาย เพราะความตายเป็นเรื่องสิ่งที่คนจำนวนมากคิดว่ายังไม่สำคัญ คิดว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดไม่น่าจะตายเร็วๆ นี้ เป็นหัวข้อที่ไม่สบายใจที่จะเรียนรู้ แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่สนใจจะเรียนรู้เพราะกำลังหรือเคยเผชิญการดูแลความตายและการสูญเสียมาแล้ว คนเหล่านี้อาจตระหนักว่าการเรียนรู้เรื่องการดูแลการตายเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น และไม่ว่าอย่างไรเราทุกคนย่อมต้องใช้ความรู้วิชาความตายในสักวัน ไม่ว่าเราจะพร้อมหรือไม่ก็ตาม คำถามคือ ในหากเราทำงานเกี่ยวข้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ เราจะออกแบบการเรียนรู้เรื่องการอยู่ดี ตายดีอย่างไรให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย บรรลุวัตถุประสงค์ ภายใต้เงื่อนไขของกลุ่มเป้าหมาย เวลา โอกาส ทรัพยากร และสถานที่ที่มีอยู่ บทความนี้นำเสนอแนวทางการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน ที่ครูอ้อ หทัยรัตน์ สุดา ได้แนะนำไว้ในงานอบรมหลักสูตรการออกแบบกระบวนการเรียนรู้สำหรับกระบวนกรชุมชนกรุณา ที่บ้านไม้หอม พระราม 2 วันที่ 19 – 21 มิถุนายน 2565 …

แนวทางการออกแบบกระบวนการเรียนรู้เรื่องการอยู่และตายดีแบบ Active Learning Read More »

“เยียวยาใจและชุมชน” คำขวัญรณรงค์ World Hospice and Palliative Care Day 2022

เขียนโดย เอกภพ สิทธิวรรณธนะเขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2565 ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์กร World Hospice and Palliative Care Alliance ได้เสนอหัวข้อวันฮอสพิซและการดูแลแบบประคับประคองโลกซึ่งจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมของทุกปี สำหรับปีนี้ เสนอคำขวัญว่า Healing hearts & Communities (เยียวยาใจและชุมชน) รณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการดูแลความโศกเศร้าจากความสูญเสียและการดูแลแบบประคับประคอง เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดความทุกข์จากความสูญเสีย ประเด็นรณรงค์ เราไม่เคยเดียวดาย: มนุษย์ต่างเป็นเพื่อนร่วมประสบการณ์ความสูญเสีย Never alone: United in Grief and humanityเราทุกคนต่างเคยประสบความสูญเสียน้อยใหญ่ สิ่งที่ช่วยให้เราผ่านความโศกเศร้าและสูญเสียได้และมีวุฒิภาวะมากขึ้นคือการสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน วันดูแลแบบประคับประคองโลกปีนี้ขอเชิญชวนให้เราแบ่งปันเรื่องราวการดูแลความสูญเสียตามแนวทางชุมชนกรุณา เพื่อฟื้นคืนความหวังและการเยียวยา ให้เกียรติชีวิตและความโศกเศร้า ด้วยการลงทุนสนับสนุนการดูแลความสูญเสียโดยมีชุมชนเป็นฐาน Honoring life and grief through investment in community-based bereavement supportการสนับสนุนผู้สูญเสียด้วยใจกรุณาจะช่วยฟื้นหัวใจความเป็นมนุษย์ ทั้งต่อผู้สูญเสียและผู้ให้ความช่วยเหลือ การดูแลแบบประคับประคองคือแนวทางดูแลที่ช่วยสนับสนุนผู้ป่วยให้ผ่านความโศกเศร้าและสูญเสีย มีส่วนช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาสุขภาพกายและจิต ทั้งผู้ป่วย ผู้ดูแล และครอบครัว …

“เยียวยาใจและชุมชน” คำขวัญรณรงค์ World Hospice and Palliative Care Day 2022 Read More »

ผู้เชื่อมต่อสุขภาพ Health Connector Mendip

ในประเทศอังกฤษ และอีกหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว แม้ระบบสุขภาพภาครัฐจะครอบคลุมการดูแลความเจ็บป่วยของประชาชนทุกคน แต่ก็ยังมีผู้เผชิญความปัญหาสุขภาพทางกายและจิตจำนวนหนึ่งก็ยังคง “ไม่รู้” ช่องทางและวิธีการที่จะเข้าถึงการรับบริการสุขภาพในระบบ ทำให้พลาดโอกาสในการป้องกันส่งเสริมสุขภาพ และได้รับบริการตามสิทธิ์ที่พึงมี โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเปราะบาง ประชาชนที่มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่คนเดียว เป็นต้น วิธีการแก้ปัญหาหนึ่งแบบชุมชนกรุณา คือการพัฒนา “ผู้เชื่อมต่อสุขภาพ” ในชุมชน ซึ่งจะช่วยเผยแพร่ความรู้ สนับสนุนให้เพื่อนร่วมชุมชนเข้าถึงและรับบริการสุขภาพตามระบบสวัสดิการสังคมและสุขภาพที่มีอยู่ ฟังดูไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร สังคมไทยก็มีคนที่ทำหน้าที่นี้อยู่ ก็คือ อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านนั่นเอง  อย่างไรก็ตาม Health Connectors Medip ประเทศอังกฤษ เรียกคนทำหน้าที่เชื่อมต่อการดูแลสุขภาพว่า Health Connectors หรือผู้เชื่อมต่อสุขภาพ แนวคิดนี้อยู่ในข่ายความคิดเดียวกับงานสุขภาพปฐมภูมิ (Primary Care) ที่สนับสนุนการส่งเสริมป้องกันสุขภาพ ช่วยให้ผู้เผชิญความเจ็บป่วยได้รับการดูแลส่งเสริมสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ ส่วนผู้ต้องการความช่วยเหลือที่ตกสำรวจจากระบบสุขภาพ Health Connectors นี้แหละก็จะช่วยสอดส่องคัดกรองให้เขาได้รับการดูแลตามสมควร โปรแกรมนี้จึงช่วยให้ชุมชนมีทรัพยากรบุคคลช่วยดูแลส่งเสริมสุขภาพ โอกาสที่ผู้ต้องการเข้าถึงการดูแลสุขภาพย่อมมีมากขึ้น และเมื่อ Health Connectors ทำหน้าที่เชื่อมต่อการดูแลในประเด็นการดูแลความตาย และความสูญเสีย โปรแกรมนี้จึงอยู่ในขอบข่ายชุมชนกรุณาด้วย ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรม Helath Connectors Mendip …

ผู้เชื่อมต่อสุขภาพ Health Connector Mendip Read More »

ข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีสรุปบทเรียนในการทำงานชุมชนกรุณา

เขียนโดย เอกภพ สิทธิวรรณธนะ2022-6-29 บทความนี้เสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการสรุปบทเรียนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่สนับสนุนการอยู่และตายดีในพื้นที่ชุมชนกรุณา เรียบเรียงจากการอบรม Workshop สรุปบทเรียนการทำงานชุมชนกรุณา เพื่อสนับสนุนการอยู่ดี ตายดี วันที่ 17-18 มิถุนายน 2565 ณ บ้านไม้หอม พระราม 2 กรุงเทพ วิทยากรโดย คุณหทัยรัตน์ สุดา หรือครูอ้อ แห่งห้องสมุดผีเสื้อ จ.ศรีสะเกษ กับกระบวนกรชุมชนทั้ง 18 คน จากพื้นที่ปฏิบัติการชุมชนกรุณาหลากพื้นที่ ทำไมต้องสรุปบทเรียนชุมชนกรุณา การทำงานชุมชนกรุณา เช่นเดียวกับงานพัฒนาสังคมอื่นๆ ที่คนทำงานอยากเห็นการทำงานของตนเองพัฒนาขึ้น ทำน้อยแต่ได้มาก ตอกย้ำว่างานของเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ บรรลุเป้าหมายของงาน จะบรรลุสิ่งเหล่านี้ กลไกสำคัญหนึ่งในการพัฒนางานและตนเองก็คือการสรุปบทเรียน การไม่สรุปบทเรียน ทำให้เราเจอความผิดพลาดซ้ำๆ อุปสรรคที่มีอยู่ก็อาจจะคงอยู่อย่างนั้น สิ่งคาดหวังยังดูเหมือนห่างไกล แน่นอนว่าการสรุปบทเรียนเป็นสิ่งสำคัญ​ แต่จะทำอย่างไรให้บทเรียนที่สรุปได้ไม่เป็นเพียงงานเอกสาร แต่แผ่ซึมเป็นประสบการณ์ในใจ เปลี่ยนแปลงกรอบคิดหรือวิธีทำงานที่ถูกทิศทางมากขึ้น ขณะเดียวกัน คนทำงานก็ได้พัฒนาตนเอง มีชีวิตชีวา เวิร์คชอปที่ครูอ้อนำการเรียนรู้ได้นำเสนอสิ่งนี้ การสรุปบทเรียน ต้องสร้างสมดุลระหว่าง บทเรียน กับ การเสริมพลังอำนาจผู้ร่วมสรุปบทเรียน …

ข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีสรุปบทเรียนในการทำงานชุมชนกรุณา Read More »

เรื่องเล่าดิจิทัล (Digital Storytelling) กับการสื่อสารสร้างทัศนคติที่ดีต่อการดูแลแบบประคับประคอง

เอกภพ สิทธิวรรณธนะ19 พฤษภาคม 2565 ผู้เขียนได้ยินและได้เห็นเรื่องเล่าดิจิทัล หรือ Digital Storytelling ครั้งแรก ในงานประชุมนานาชาติด้านการสาธารณสุขและการดูแลแบบประคับประคอง Public Health and Palliative Care 2019 ที่ออสเตรเลีย ตัวชิ้นงานเองเป็นทั้งผลลัพธ์และการสื่อสารงานวิชาการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมสนับสนุนงานดูแลแบบประคับประคอง ด้วยเสน่ห์ของงานวิจัยแบบนี้ที่เสพง่าย (และมีวีดีโอให้ดู) วิทยากรเพียงเกริ่นถึงกรณีผู้ให้ข้อมูลในวีดีโอ เปิดวีดีโอให้ชม และตอบคำถามช่วงท้ายเท่านั้น งานนำเสนอส่วนที่เหลือคือการฉายวีดีโอให้ผู้ร่วมประชุมรับรู้เรื่องราวจากผู้ป่วย ผู้พิการ ผู้ดูแล ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ผู้ป่วยระยะท้ายในฮอซพิซ ด้วยเสียงและภาพประกอบของตนเอง หลังฉายจบค่อยเล่าเบื้องหลัง กระบวนการสร้างเรื่องเล่า เรื่องเล่าดิจิทัล แม้ดูเผินๆ อาจเข้าใจว่าคือวีดีโอสารคดีชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับชีวิตผู้ป่วย แต่ในทางญาณวิทยา เรื่องเล่าดิจิทัล ต่อยอดจากระเบียบวิธีวิจัยแบบเรื่องเล่า (Narrative Inquiry) ที่ให้ความสนใจกับประสบการณ์ของผู้เล่าเรื่องที่มักเป็นผู้อยู่ชายขอบของสังคม  หากเป็นการวิจัยเรื่องเล่าดั้งเดิม เรื่องเล่าจะอยู่ในรูปบันทึกเรื่องเล่า โดยนักวิจัยจะสร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างสัมพันธภาพกับผู้เล่าเรื่อง แล้วฟังประสบการณ์วิกฤตของผู้เล่าเรื่อง ปล่อยให้ผู้เล่าได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตนเองอย่างพรั่งพรูออกมาโดยนักวิจัยแทรกแซงให้น้อยที่สุด แต่ในปัจจุบัน คนอ่านบันทึกเรื่องเล่าจากงานวิจัยกันน้อยลง นักวิจัยจึงต้องเรียนรู้ที่จะใช้สื่อใหม่อย่างสื่อดิจิทัล มาเป็นเครื่องมือสร้างเรื่องเล่าพร้อมไปกับการเล่าเรื่อง นักวิจัยทีมนี้สนใจประสบการณ์ของผู้สูงอายุ ผู้ดูแล ผู้สูงอายุกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งผู้ป่วยระยะท้ายที่มีต่อการรักษาแบบประคับประคอง  เริ่มจากรับสมัครกลุ่มคนเล่าเรื่อง …

เรื่องเล่าดิจิทัล (Digital Storytelling) กับการสื่อสารสร้างทัศนคติที่ดีต่อการดูแลแบบประคับประคอง Read More »

การพัฒนาความรู้เท่าทันความตาย

เรียบเรียงโดย เอกภพ สิทธิวรรณธนะ11 พฤษภาคม 2565 Key Message ความรู้เท่าทันความตาย คือ ชุดความรู้และทักษะที่บุคคลจำเป็นต้องมี เพื่อทำความเข้าใจ เข้าถึงการรับบริการ และตัดสินใจเลือกการดูแลชีวิตช่วงท้ายและการตายของตนเองและผู้ป่วย การพัฒนาความรู้เท่าทันความตายประกอบด้วย การพัฒนาความรู้ ทักษะ ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ และการปฏิบัติทางสังคม ชุมชนกรุณา (Compassionate Communities) เสนอว่าความเจ็บป่วย การตาย การดูแล และความสูญเสีย เป็นธุระที่ไม่อาจฝากไว้ให้บุคลากรสุขภาพและผู้เชี่ยวชาญดูแลแต่เพียงฝ่ายเดียว หากเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ (Death is everybody’s business) เมื่อนั้น เราทุกคนจึงสามารถดูแลความเจ็บป่วยช่วงท้าย การตาย และความสูญเสียอย่างมีคุณภาพได้ที่บ้านและชุมชน ลดการพึ่งพิงระบบสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อหลักประการหนึ่งของการสาธารณสุขแห่งการดูแลแบบประคับประคอง (Public Health Palliative Care) ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระยะท้ายและผู้ดูแลได้ในระดับประชากร อย่างไรก็ตาม การที่เราจะดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย การตาย ประคับประคองการดูแลและความสูญเสียได้นั้น บุคคลและชุมชนจำเป็นต้องมีศักยภาพบางประการที่ช่วยให้เราดูแลความทุกข์ที่เกี่ยวเนื่องกับความเจ็บป่วยและความสูญเสียข้างต้นได้ เราเรียกสิ่งนั้นว่า “ความรู้เท่าทันความตาย” (Dealth Literacy) [1] ความรู้เท่าทันความตายคืออะไร แนวคิดความรู้เท่าทันความตาย …

การพัฒนาความรู้เท่าทันความตาย Read More »

ความตายวาดได้ ศิลปะสู่พื้นที่เรียนรู้ความตาย || ชุมชนกรุณาศึกษา

ปฏิบัติการชุมชนกรุณา เชิญทุกคนเข้ามามีบทบาทสร้างพื้นที่เรียนรู้ความเจ็บป่วย ความตาย การดูแล และความสูญเสีย ตามความถนัด ความสนใจ บทบาทของตนเองที่เป็นอยู่ ดังเช่นการทำงานของแอนโทเนีย โรลส์ (Antonia Rolls) ศิลปินหญิงผู้วาดการตายและจัดแสดงงานศิลปะ แอนโทเนีย เป็นศิลปินวาดภาพบุคคล เธอกล่าวว่าเธอไม่รู้ว่าความตายเป็นอย่างไร จนกระทั่ง ปี 2007 สตีฟ สามีของเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เธอตระหนักถึงความตายว่าเป็นความจริง เธอไม่เคยเตรียมใจรับความพลัดพรากเช่นนี้มาก่อน ประสบการณ์การดูแล การตาย และความสูญเสียเป็นประสบการณ์ใหม่ สิ่งหนึ่งที่แอนโทเนียใช้เป็นเครื่องมือในการอยู่กับสภาวะที่ปั่นป่วนนี้ คือการวาดภาพสามีของเธอที่กำลังเสื่อมถอยและกำลังจะตาย เพราะเธอคิดว่า อาจมีคนอื่นๆ ที่อยากรู้จักสภาวะของการเผชิญความตายเช่นนี้เพื่อเตรียมใจ และภาพวาดบุคคลแบบสมจริงที่แสดงอาการใกล้ตายของสตีฟ น่าจะทำให้คนอื่นๆ ได้ทำความรู้จักความตายมากขึ้น และทำให้เรื่องนี้ปรากฏในชีวิตประจำวันของผู้คน เธอวาดภาพเหมือนของสตีฟทั้งส่วนที่เป็นกายภาพ (เช่น ความร่วงโรย กล้ามเนื้อที่ค่อยๆ เสื่อมลง กระดูกที่เห็นชัดขึ้น) และส่วนที่เป็นอารมณ์ที่สะท้อนบนใบหน้า รวมทั้งสีหรือสัญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์ขัน หรือความโศกเศร้า ที่เธอสัมผัสได้ในช่วงนั้นๆ ในวันที่สตีฟเสียชีวิต แอนโทเนียยังวาดการตายของเขาไว้ด้วย เธอยังบันทึกแง่มุมความงดงามของความป่วยและความตายที่เธอเห็นลงในภาพ นั่นทำให้ผลงานของเธอเป็นบันทึกชั่วขณะแห่งการอยู่ด้วยกันกับความเจ็บป่วย การตาย ระหว่างศิลปิน ผู้ป่วย และผู้ดูแลหลังจากสตีฟจากไป แอนโทเนียจัดแสดงผลงานของเธอในบ้าน มีผู้ป่วยเข้ามาเยี่ยมชมและขอให้แอนโทเนียวาดพวกเขาด้วยเทคนิคเดียวกัน …

ความตายวาดได้ ศิลปะสู่พื้นที่เรียนรู้ความตาย || ชุมชนกรุณาศึกษา Read More »

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาชุมชนกรุณา