ทั่วไป

ระบบความตาย (2): อำนาจ การเลือกปฏิบัติ การบริโภค ปัจเจก ครอบครัว ชุมชน การเลือก และการบริโภค

บันทึกการสนทนาเรียนรู้ระบบความตาย กิจกรรม PHPC Group Read วันที่ 30 ส.ค. 2567 คุยบทความหัวข้อที่ 6-8 ในรายงานของคณะกรรมการ Lancet (ดูรายงานได้ที่ https://valueofdeath.org/) เนื้อหาสรุปมีดังนี้ ความตาย อำนาจ และการเลือกปฏิบัติ แม้ทุกๆ คนจะต้องประสบความตายอย่างเท่าเทียมกัน แต่การดูแลการตายของแต่ละคนไม่เท่าเทียมกัน ถูกกำหนดมาจากปัจจัยสังคมการเมืองที่หลากหลาย เช่น เพศ ชาติพันธุ์ สีผิว ถิ่นที่อยู่ การเข้าถึงบริการสาธารณะของรัฐ การเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ นโยบายการเมืองในและระหว่างประเทศ เราสามารถเรียนรู้ความทุกข์จากการดูแลการตายโดยการประยุกต์เอาโมเดล ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinant of Health) มาประยุกต์เพื่อทำความเข้าใจปัจจัยกำหนดคุณภาพการตายได้ (Social Determinant of Death and Dying) การเปลี่ยนแปลงระบบความตาย จำเป็นต้องเห็นประเด็น “อำนาจ” ของการควบคุมและมีอิทธิพลต่อการดูแลความเจ็บป่วยและการตาย โดยเฉพาะอำนาจในสถาบันการแพทย์ อำนาจในชุมชน อำนาจทางการเมือง อำนาจในการมีอิทธิพลทางความคิดและเรื่องเล่าทางวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลงระบบความตาย จึงต้องเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์เชิงอำนาจในองคาพยพของการดูแลแบบประคับประคองด้วย ตัวอย่างการเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจเช่น …

ระบบความตาย (2): อำนาจ การเลือกปฏิบัติ การบริโภค ปัจเจก ครอบครัว ชุมชน การเลือก และการบริโภค Read More »

ระบบความตาย (1): ศาสนาปรัชญา และประวัติศาสตร์ของระบบความตาย

บันทึกการสนทนาเรียนรู้ระบบความตาย กิจกรรม PHPC Group Read วันที่ 12 ส.ค. 2567 ส่วนที่ 3-5 ระบบความตาย ฐานปรัชญาและศาสนาของระบบความตาย และต้นกำเนิดทางประวัติศาสตร์ของระบบความตาย ระบบความตาย เป็นประเด็นหลักที่คณะกรรมการ Lancet ศึกษาประเด็นคุณค่าของความตาย ตีพิมพ์รายงานในปี 2022 ที่ผ่านมา [อ่านรายงานได้ที่นี่] และศึกษาที่เว็บไซต์ของรายงานได้ที่ valueofdeath.org ระบบความตาย คือแนวคิดที่คณะวิจัยหลากหลายสาขากลุ่มการสาธารณสุขการดูแลแบบประคับประคอง ร่วมกันเสนอว่า การจะทำความเข้าใจการพัฒนาคุณภาพชีวิตช่วงท้าย การตาย และความสูญเสีย จำเป็นต้องเข้าใจเครือข่ายและกระแสเหตุปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อการดูแล ระบบความตาย หมายถึงเครือข่ายระหว่างบุคคล กายภาพ สังคม และสัญลักษณ์ ที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหวางมนุษย์กับความตาย ระบบความตายนั่นเองที่กำหนดว่าความตายและการตายจะถูกเข้าใจ ควบคุม และจัดการอย่างไร กำหนดว่าคนๆ หนึ่งจะตายที่ไหน จะตายอย่างไร ครอบครัวต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ศพจะถูกจัดการอย่างไร ผู้คนจะแสดงความโศกเศร้าอาลัยอย่างไร และความตายมีความหมายอย่างไรในสัคมและชุมชน ระบบความตายก็เหมือนระบบอื่นๆ คือเปลี่ยนแปลงได้โดยสังคม วัฒนธรรม ศาสนา เศรษฐกิจ และการเมือง ส่วนประกอบในระบบความตาย วิธีทำความเข้าใจระบบความตาย …

ระบบความตาย (1): ศาสนาปรัชญา และประวัติศาสตร์ของระบบความตาย Read More »

บทบาทของเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายที่ไม่เป็นทางการ ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง PHPC Group Read EP7

บันทึกการกิจกรรมอ่านกลุ่ม บทบาทของเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายที่ไม่เป็นทางการ ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง PHPC Group Read EP7 วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 บทบาทของการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายเป็นของทุกคน แต่ที่ผ่านมา สังคมอาจคาดหวังให้บุคลากรวิชาชีพมีบทบาทหลัก เพราะมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากกว่า แต่ความเป็นจริงคือ การดูแลส่วนใหญ่มักอยู่ในมือของครอบครัว เพื่อน ญาติสนิท เพื่อนร่วมงาน เราเรียกกลุ่มนี้ว่า “เครือข่ายการดูแลที่ไม่เป็นทางการ” ซึ่งต่างจากกลุ่มแรกที่เป็นเครือข่ายการดูแลที่เป็นทางการ และได้รับค่าตอบแทนจากระบบบริการสุขภาพ ที่ผ่านมา งานวิจัยศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบบริการดูแลแบบประคับประคอง มักสนใจเครือข่ายการดูแลที่เป็นทางการ เพราะสามารถเก็บข้อมูลได้ง่ายกว่า มีตัวเลขและหลักฐานเชิงประจักษ์มากกว่า จึงยังขาดความเข้าใจเครือข่ายการดูแลที่ไม่เป็นทางการ บทความเรื่อง “The evidence of the importance of informal care networks (ICN)” พูดถึงความสำคัญของเครือข่ายการดูแลไม่เป็นทางการ โดยเสนอประเด็นว่า ผู้ป่วยระยะท้ายจะมี ICN อยู่เสมอ โดยเฉพาะในสภาพสังคมสูงวัยที่จำนวนผู้สูงอายุมีมากกว่าสถานบริการสุขภาพจะรองรับได้ ภาครัฐจึงสนับสนุนให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาดูแลที่บ้านมากขึ้น ลักษณะสำคัญของเครือข่ายการดูแลที่ไม่เป็นทางการ ผู้ป่วยแต่ละคนมี ICN ไม่เหมือนกัน คุณลักษณะของ ICN ได้แก่ …

บทบาทของเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายที่ไม่เป็นทางการ ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง PHPC Group Read EP7 Read More »

การดูแลแบบประคับประคองกับความเป็นธรรมทางสังคมในกลุ่มเปราะบาง บันทึกสรุปกิจกรรม Group Read EP4 Oxford Textbook of Public Health Palliative Care

วันที่ 31 พ.ค. 2567 กลุ่ม Group Read อ่านบทความตำรา Public Health Palliative Care หัวข้อ Public Health Palliative Care, equity-oriented care, and structural vulnerability มีผู้สนใจเข้าร่วมอภิปรายประเด็นการดูแลแบบประคับประคองกับกลุ่มเปราะบาง กลุ่มชายขอบ เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่เป็นธรรม ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากการพัฒนาระบบสุขภาพมักพัฒนาขึ้นจากมุมมองของคนที่พัฒนาระบบ ซึ่งมีภูมิหลัง ความเชื่อทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนกลุ่มใหญ่ ระบบจึงถูกออกแบบมาให้สะดวกสบาย สอดคล้องกับวิถีคนกลุ่มใหญ่ ทั้งมิติคุณค่า วัฒนธรรม ภาษา ซึ่งอาจกีดกันหรือลืมนึกถึงกลุ่มคนที่แตกต่างจากกลุ่มคนที่พัฒนาระบบ และเสียเปรียบจากระบบ (เช่น มีค่าใช้จ่ายมากกว่า ออกแรงมากกว่า พบกับความไม่สะดวกสบายมากกว่าในการเข้าถึงบริการสุขภาพ) ในบทความ จะขอเรียกคนกลุ่มนี้ว่ากลุ่มเปราะบาง ซึ่งไม่ได้หมายถึงกลุ่มที่มีจิตใจหรือร่างกายบอบบาง แต่เป็นกลุ่มที่ประสบความทุกข์ยากจากความเหลื่อมล้ำและความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ถูกลดทอนศักดิ์ศรี กีดกันมายาวนาน คนกลุ่มนี้ควรได้รับการดูแลใส่ใจที่เฉพาะ เพื่อให้ได้รับคุณภาพชีวิตในขั้นที่เทียบเท่าตามมาตรฐานของผู้รับบริการส่วนใหญ่ ตรงนี้ หากผู้พัฒนาละเลยการหยิบยกประเด็นความเป็นธรรมทางสังคมและกลุ่มเปราะบางมาพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะมีกลุ่มที่ตกหล่นหรือถูกกีดกันออกจากระบบการดูแลสุขภาพโดยไม่ตั้งใจ คนกลุ่มนี้แม้จะมีเปอร์เซ็นต์น้อยใจภาพรวม แต่ถ้านับจำนวนก็อาจมีจำนวนมาก (เช่น คนพิการทั่วประเทศ …

การดูแลแบบประคับประคองกับความเป็นธรรมทางสังคมในกลุ่มเปราะบาง บันทึกสรุปกิจกรรม Group Read EP4 Oxford Textbook of Public Health Palliative Care Read More »

End of Life Literacy through Public Education บันทึกการสนทนาในกิจกรรม PHPC Group Read ครั้งที่ 1

10 เมษายน 2567 ผู้สนใจงานชีวาภิบาล รวมกลุ่มสนทนาจากการอ่านบทความข้างต้น ใน discord ชีวาภิบาล มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ อะไรคือ End of Life Literacy บทความข้างต้น อยู่ใตำรา Oxford Textbook of Public Health Palliative Care ปี 2022 นำเสนอประเด็นการสาธารณสุขการดูแลแบบประคับประคองที่หลากหลาย โดยเครื่องมือการพัฒนาคุณภาพงาน Palliative Care ประการหนึ่งคือการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับความตาย ชีวิตช่วงท้าย และโศกเศร้าจากการสูญเสียในประเทศไทยยังไม่กำหนดศัพท์บัญญัติที่ชัดเจน โดยในบทความนี้ใช้คำว่า ความรู้เท่าทันความตาย = Death Literacy (DL) โฟกัสที่การรับมือกับความตายโดยรวม ความรู้เท่าทันความโศก = Grief Literacy (GL) โฟกัสที่การรับมือกับความโศกเศร้าจากการเผชิญความสูญเสีย ทั้งก่อนผู้ป่วยเสียชีวิต ระหว่าง และหลังการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ความรู้เท่าทันชีวิตช่วงท้าย = End of Life Literacy (ELL) …

End of Life Literacy through Public Education บันทึกการสนทนาในกิจกรรม PHPC Group Read ครั้งที่ 1 Read More »

รายชื่อผู้ได้รับใบรับรองทักษะกระบวนกรชุมชนกรุณาเพื่อการอยู่และตายดี

รายชื่อดังต่อไปนี้ เป็นกระบวนการที่มีคุณสมบัติและทักษะการอบรมให้แก่ ผู้ป่วย ผู้ดูแลบุคลากรสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ในเนื้อหาดังนี้– การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองสำหรับประชาชน– การวางแผนดูแลล่วงหน้าแบบทั่วไป– การดูแลใจผู้ป่วย ครอบครัว ผู้ดูแล และบุคลากรสุขภาพ– การพัฒนาชุมชนกรุณาเพื่อการอยู่และตายดี เจนจิรา โลชา ชนาพร เหลืองระฆัง ชนาวุฒิ ปัญญาวัฒนากุล ชุติมา เรืองแก้วมณี ปิญชาดา ผ่องนพคุณ พันธกานต์ อินต๊ะมูล วรรณวิภา มาลัยนวล วิชญา โมฬีชาติ ศศิวิมล วงษ์สวัสดิ์ สุธีลักษณ์ ลาดปาละ เอกภพ สิทธิวรรณธนะ

ทำไมการดูแลแบบประคับประคองจึงสำคัญในระบบสุขภาพปฐมภูมิ

การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care – PC) ได้รับการพูดถึงและยอมรับมากขึ้นในงานสาธารณสุขของประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ระบบสุขภาพและภาคประชาชนส่งเสียงเรียกร้องให้งานดูแลแบบประคับประคอง แผ่ขยายออกจากโรงพยาบาลมาสู่ชุมชนมากขึ้นจากแนวคิด Community-based palliative Care (การดูแลแบบประคับประคองฐานชุมชน) การผสานการทำงานระหว่างการดูแลแบบประคับประคองกับระบบสุขภาพปฐมภูมิ (Primary Health Care – PHC) จึงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้เขียนเรียบเรียงเหตุผล ความจำเป็น อุปสรรคของการทำงาน และแนวทางการพัฒนาการดูแลแบบประคับประคองในระบบสุขภาพปฐมภูมิ (ต่อไปจะใช้ตัวย่อว่า PCxPHC) จากเอกสารชุด Why Palliative Care Is An Essential Function of Primary Health Care ปี 2018 [1] ดังนี้ ความจำเป็นในการพัฒนา PCxPHC การดูแลแบบประคับประคองที่ผสานกับระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustanable Development Goal – SDG) หมวดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (universal …

ทำไมการดูแลแบบประคับประคองจึงสำคัญในระบบสุขภาพปฐมภูมิ Read More »

English version Circles of Care exhibition

#0 Circles of care This is infographic of circles of care show the ecology of caring componant. The center of circles is patient Inner network represents close relation that take care sanitery, eatary or serious health issues Outer network represents friend, distant relative that could take care of daily and general well being Communities represents …

English version Circles of Care exhibition Read More »

The Soul of Care: Book Review

The Soul of Care: The Moral Education of a Doctor Arthur Kleinman จัดพิมพ์ในชื่อภาษาไทยว่า วิญญาณของการดูแล การบ่มเพาะทางศีลธรรมของแพทย์คนหนึ่ง อาร์เธอร์ ไคลน์แมน หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องราวอัตชีวประวัติของอาร์เธอร์ ไคลน์แมน จิตแพทย์และนักมานุษยวิทยาการแพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้เขียนเล่าชีวประวัติควบคู่ไปกับประวัติการดูแลโจน ไคลน์แมน ภรรยาของผู้เขียนที่ประสบความทุกข์ทรมานจากภาวะสมองเสื่อมในวัย 50 ปี เส้นทางการดูแลเต็มไปด้วยความยากลำบาก หากก็มีส่วนเปลี่ยนแปลงความเป็นมนุษย์ของผู้เขียนอย่างลึกซึ้ง ในระหว่างการดูแล ผู้เขียนบอกเล่าเรื่องราวการดูแลภรรยาจากหลากหลายกลุ่ม ทั้งตัวผู้เขียน ครอบครัว ชุมชน บุคลากรสุขภาพทั่วไปและเชี่ยวชาญ ผู้เขียนเล่าด้วยมุมมองที่หลากหลาย ทั้งจากสายตาของสามีคนหนึ่ง พ่อคนหนึ่ง และนักวิชาการแนวหน้าด้านมานุษยวิทยาการแพทย์ ไม่แปลกที่หนังสือเล่มนี้เสนอข้อวิพากษ์พฤติกรรมการดูแลของแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ ที่ถูกครอบงำโดยชุดคุณค่าแบบทุนนิยมและการบริหารจัดการ แทนที่การดูแลด้วยมือ หัวใจ และการอยู่ตรงหน้ากับผู้ป่วย เรื่องเล่าและบทวิเคราะห์การดูแลของผู้เขียนและภรรยาในหนังสือเล่มนี้ สะท้อนให้เห็นข้อจำกัดของระบบบริการสุขภาพในสหรัฐอเมริกา การละเลยไม่ใส่ใจบำรุงระบบการดูแลผู้ป่วยระยะยาว ความบิดเบี้ยวของระบบการศึกษาแพทย์ และบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพที่ค่อยๆ กัดกร่อนความสามารถและทักษะการดูแลของบุคลากรสุขภาพวิชาชีพ จนผู้ป่วยและครอบครัวรู้สึกว่าสถาบันสุขภาพเหล่านี้ไม่ได้ให้การดูแลในเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างที่สุด ขณะเดียวกัน The Soul of …

The Soul of Care: Book Review Read More »

เจรจาสร้างความร่วมมือการพัฒนาชุมชนกรุณาด้วยหลักการ K.I.S.S. (Keep It Short and Simple)

การพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการอยู่และตายดีตามแนวคิดชุมชนกรุณา ไม่สามารถทำโดยลำพัง ทักษะการสร้างความร่วมมือกับผู้นำจากพันธมิตรจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อระดมคน กำลัง และทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในชุมชน มาเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่เอื้อต่อการตายดีมากขึ้น บทความนี้นำเสนอเทคนิคการสนทนาเพื่อเสนอความร่วมมือกับคนที่เราอยากร่วมงานด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่หวังผลการเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการพูดที่สั้น กระชับ เรียบง่าย (Keep It Short and Simple หรือ K.I.S.S.) แต่ได้ผล สรุปเนื้อหาจากงานอบรมหลักสูตรการออกแบบกระบวนการเรียนรู้สำหรับกระบวนกรชุมชนกรุณา ที่บ้านไม้หอม พระราม 2 วันที่ 19 – 21 มิถุนายน 2565 สอนโดย ครูอ้อ หทัยรัตน์ สุดา ทำไมต้อง K.I.S.S. ปัญหาหนึ่งของการเจรจาสร้างความร่วมมือที่พบบ่อยๆ ของผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง คือ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงมักสื่อสารเนื้อหาการทำงานที่มากและนานเกินไปในการเสนองาน ไม่น่าสนใจ จนผู้ที่เราอยากจะขอความร่วมมือจับใจความสำคัญไม่ได้ เป็นนามธรรม สิ่งที่เสนออาจจะยากเกินไปในการร่วมงานด้วย ทำให้พลาดโอกาสที่จะสร้างความร่วมมือ สร้างความรู้จักคุ้นเคย พัฒนาความไว้เนื้อเชื่อใจจนเกิดเป็นความร่วมมือระยะยาว การพัฒนาบทเจรจาสร้างความร่วมมือ การขัดเกลาเนื้อหาการเจรจาและประเด็นขอความร่วมมือให้สั้น กระชับ จำได้ เป็นไปได้ และง่ายที่จะร่วมมือด้วย จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเปิดประตูโอกาสในการร่วมมือ …

เจรจาสร้างความร่วมมือการพัฒนาชุมชนกรุณาด้วยหลักการ K.I.S.S. (Keep It Short and Simple) Read More »

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาชุมชนกรุณา